การเรียน
เทคนิคเติมไฟให้กับการเรียน

คิดว่าทุกคนก็คงจะเคยเป็น กับอารมณ์ที่จู่ๆก็รู้สึกเบื่อในสิ่งที่ทำ ในสิ่งที่เรียนอยู่ทั้งๆที่สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เราชอบ ซึ่งก็เป็นธรรมดา หากว่าเราเลือกชอบสิ่งนี้แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างที่เราชอบ กรเรียนก็เช่นกัน เราเลือกคณะที่ใช่ ถูกใจมากๆ แต่ก็มีบางวิชาเรียนที่เราไม่ชอบเอาเสียเลย แถมภาระงานและสิ่งแวดล้อมที่บางครั้งก็ไม่เป็นใจให้เรา เลยทำให้เรารู้สึกท้อแท้ และหมดไฟกับการเรียนและการทำงานไปเลย วันนี้จะมาแนะนำเทคนิคการเติมไฟให้กับการเรียน

1.เปลี่ยนบรรยากาศ

แน่นอนว่าความซ้ำซากและจำเจทำให้เรารู้สึกเบื่อได้ง่ายๆ ดังนั้นลองหากิจกรรมและเปลี่ยนบรรยากาศ เช่นจากการอ่านหนังสือในหอสมุด ก็ลองเปลี่ยนเป็นอ่านที่คาเฟ่น่ารักๆ สักที่ หรือการติวร่วมกับเพื่อนคณะอื่นๆ ซึ่งเป็นเหมือนการเปิดโลกทัศน์ และมุมมองใหม่ๆของเรา ที่สามารถช่วยเติมไฟและสร้างแพชชั่นให้เราได้เป็นอย่างดี

2.ทบทวนตัวเอง

ทวบทวนว่า เป้าหมายและเหตุผลของการกระทำของเรานั้น ทำไปเพื่อจุดประสงค์อะไร หลายครั้งที่เรานั้นหมดไฟกับการททำสิ่งบางอย่างเพราะเรามีความรู้สึกว่า ไม่รู้จะทำมันไปทำไม  เช่น เราอาจจะตั้งใจเรียนเพื่อพ่อ แม่ คนในครอบครัว เพื่อสอบเข้าคณะที่เราอยากจะเข้า เพื่ออาชีพในฝันที่เราต้องการ  เมื่อไหร่ก็ตามที่เรานั้นท้อ ให้เรานึกถึงเหตุผลที่เรานั้นพยายาม

3.หาแรงบันดาลใจ 

สมัยนี้แรงบันดาลใจสามารถหาได้ง่ายมากๆ เพียงแค่หาวิดีโอในยูทูปที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจสักเรื่องขึ้นมา หรือไปฟัง talk ซึ่งการได้รับฟังทัศนคติที่ดีของใครสักคน จะช่วยสร้างแรงบันดาบใจได้เป็นอย่างดี จะฟังในเรื่องราวของการเรียนที่เราเรียนอยู่ หรือเปิดฟังมุมมองอื่นๆ จะทำให้เรารู้สึกมพลังดีๆ มากยิ่งขึ้น

4.ปรับทัศนคติและมุมมองให้ดีขึ้น

ทัศนคติและมุมมองเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิต หากเมื่อไหร่ที่รู้เหนื่อย ท้อ หมดไฟกับการทำอะไรบางอย่าง ลองพยายามมองอุปสรรคต่างๆ เหล่านั้นให้เป็นเหมือนบทเรียนของชีวิตที่จะต้องก้าวข้ามไปให้ได้ หรือบางอย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้ก็ลองปล่อยไป เราเป็นมนุษย์มีความรู้สึกนึกคิด เหนื่อยก็พัก หายเหนื่อยแล้วค่อยกลับมาสู้ต่อ ไม่สายเกินไปหรอก

5.ลองคิดทบทวนว่าถ้าเราไม่ทำ แล้อนาคตจะเป็นอย่างไร

นึกง่ายๆ เลย เช่นหากเราทำไม่ทำการบ้าน เราก็ไม่มีงานส่ง ซึ่งเราก็จะไม่ได้คะแนน ถ้าเราไม่ทำงาน เราก็จะไม่ได้รับเงินที่เป็นผลตอบแทน ดังนั้นลองคิดทบทวนว่าถ้าเราไม่ทำในตอนนี้จะส่งผลเสียต่ออนาคตแล้วเราจะเสียใจหรือไม่ เพราะเราเองก็คงไม่อยากจะพูดคำว่า ตอนนั้นไม่น่าทำแบบนั้นเลยใช่ไหม แต่การทำในที่นี้จะต้องอยู่บนพื้นฐานของความสุข ดังนั้นคุณควรจะทบควนตัวเองและลองทำตามลำดับข้อข้างบนมาก่อน ก็อาจจะทำให้คุณมีไฟในการทำงาน การเรียนต่อไปได้